‘กองทัพขยับ’ การเมืองระอุ!

ช่วงนี้ “บิ๊กทหาร” ในกองทัพตบเท้าออกมาแสดงความเห็นทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกมาประกาศ “ปกป้องสถาบัน” หลังมีข่าวคนเสื้อแดงปราศรัยหมิ่นสถาบัน…จนผบ.ทบ.ต้องถูกแจ้งข้อหาหมิ่น ประมาท เพราะไปแจ้งความคนเสื้อแดงหมิ่นสถาบัน

ขณะเดียวกันรัฐบาลก็ชง กกต. ออกกฎหมายเอาผิดพรรคการเมืองที่หมิ่นสถาบันต้องถูกยุบพรรค จนกลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ ก่อนถึงวันเลือกตั้ง

ส่วน “บิ๊กทหาร” ที่ออกมาประกาศจุดยืนชัดเจนมีออกมาอย่างต่อเนื่อง การออกมาปกป้องสถาบันครั้งนี้ จึงไม่ใช่แค่คำพูดเหมือนเช่นทุกครั้ง แต่เป็นการออกประกาศและเอาจริง หากใครคิดจะใช้ สถาบันมาหากินทางการเมือง

ประเด็นนี้หากย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์ทางการเมืองแล้ว ก่อนปี2549 แทบจะไม่มีข่าวเช่นนี้ปรากฏขึ้นมาให้เห็นมากนัก หรือแทบจะไม่มีเลย

แต่ภายหลังเหตุการณ์ที่ผลิกประวัติศาสตร์ทางการเมือง เมื่อวันที่19 ก.ย.25549 คนไทยก็ได้ยินข่าวทำนองนี้มาตลอด

และหลายครั้งที่สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ จากการโพสต์ข้อความต่างๆในเว็บไซต์ หรือการบล็อคเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมจากกระทรวงไอซีที

ครั้งนี้เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ “ทหาร” ออกมาแสดงพลังปกป้องสถาบันในทันทีทันใด

ขนาดนายทหารสายเหยี่ยวอย่าง “พล.ท.ยอดยุทธ บุญญาธิการ” ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศกองทัพบก (นปอ.) ที่ไม่ค่อยให้สัมภาษณ์สื่อ ก็ต้องออกมาพูด

“วันนี้กำลังพลของ นปอ.ไม่สบายใจ รู้สึกกระทบกระเทือนทางจิตใจ เพราะที่ผ่านมา มีกลุ่มบุคคลแสดงคำพูดที่พาดพิงสถาบันฯ ตนจึงอยากให้พี่น้องประชาชนชาวไทย เรียกร้องดำเนินการตามกฎหมาย อย่าให้มีกลุ่มบุคคลใด กระทำการใดๆที่ไม่เหมาะสม และขอเรียกร้องให้สังคมออกมาแสดงพลังต่อต้านการกระทำที่ไม่เหมาะสม”

ตามมาด้วยรุ่นน้องอย่าง “พล.ต.กัมปนาท รุดดิษฐ์” ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.1 รอ.) ที่ประกาศปกป้องสถาบันสมกับเป็นชายชาติทหาร

“จุดยืนของทหารทุกคนอยู่จุดเดียวกับ ผบ.ทบ.อยู่แล้ว ท่าน หลังแข็ง อยู่แล้วไม่ต้องกลัว พวกเรายืนอยู่หลังท่าน ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันและมีจุดยืนเดียวกันในการที่จะปกป้องสถาบันอย่าง เต็มขีดความสามารถเหมือนคำปฏิภาณ เพราะทุกวันนี้ผมพูดกับผู้ใต้บังคับบัญชาตลอดว่าทุกคนต้องยึดถือสัจจะวาจา คำไหนเป็นคำนั้น” พล.ต.กัมปนาท กล่าว

ส่วนนายทหารกลุ่มยังเติร์กอย่าง “พ.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์” ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) ที่ครั้งหนึ่งเคยออกมาเคลื่อนไหวปกป้องสถาบันและปกป้องผบ.ทบ. ตั้งแต่ “เสธ.แดง” พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ออกมาดูหมิ่น “พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” ผบ.ทบ.ในขณะนั้น

ต่อมาเขาก็เป็นแกนนำในการแสดงความไม่พอใจ ที่ 3 สส.ใต้ พรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้ปลด ผบ.ทบ.กรณีการแก้ปัญหาภาคใต้ มาแล้ว

ครั้งนี้ พ.อ.อภิรัชต์ ออกระบุด้วยเช่นกันว่า…

“กลุ่มคนที่ออกมาโจมตีนั้น ผมไม่อยากให้ค่า ให้ราคา เพราะเป็นพวก “โรคจิต” ที่เห็นบ้านเมืองสงบ ไม่ได้ ผมไม่ได้ว่าเจาะจงใครนะ แต่พวกนี้ ผมว่าคงมี Man’s Best Friend อยู่ในปากต้องเอาออกมา”พ.อ.อภิรัชต์ กล่าว

ในช่วงที่ผ่านมายังมีทหารเสือราชินี ในกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ หรือที่สื่อขนามนามว่าเป็น “บูรพาพยัคฆ์” ต่างตบเท้าออกมาแสดงพลัง เหมือนครั้งที่ ผบ.ทบ.ถูกเสธ.แดงโจมตี

อย่างไรก็ตาม การออกมาแสดงพลังปกป้องสถาบันของทหารครั้งนี้ ถือเป็นสิ่งที่ควรกระทำ ขณะเดียวกันการดำเนินการทางกฎหมายกับบุคคลที่หมิ่นสถาบันนั้น ยังเป็นโจทย์ที่ต้องกลับมาขบคิดกันอีกว่า…อะไรคือดุลยภาพของบังคับใช้ กฎหมายข้อนี้

และจากการออกมา “เทคแอ๊คชั่น” ของกองทัพครั้งนี้ ทำให้อุณหภูมิทางการเมือง กลับมาร้อนระอุอีกครั้ง และกำลังยุ่งเป็นลิงแก้แห…จน กกต.ต้องเรียก พรรคการเมืองทุกพรรคเข้าหารือถึงข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับหมิ่นสถาบัน ในวันที่ 2 พ.ค.นี้

ทั้งนี้ เพื่อให้แนวปฏิบัติเป็นไปในทิศทางเดียวกัน การเมืองโค้งสุดท้ายก่อนยุบสภายังร้อนระอุ เมื่อถึงเวลาลงสนามศึกเลือกตั้ง จะร้อนเพียงใด

แค่คิดก็เหงื่อตกแล้ว!